บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการดูแลพนักงานให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร การส่งเสริมให้พนักงานเกิดความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน การเปิดโอกาสในการเติบโตในการทำงานอย่างเป็นธรรม และการรับฟังความคิดเห็นเพื่อการปรับปรุง จะทำให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน และเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังช่วยลดอัตราการลาออก และทำให้สามารถรักษาพนักงานที่มีศักยภาพไว้กับองค์กรได้ นอกจากนี้ ความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานยังมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับความสามารถในการแข่งขัน การเติบโต ความมั่นคงและยั่งยืนขององค์กร รวมไปถึงผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นอีกด้วย
บริษัทฯ มีนโยบายพนักงานสัมพันธ์ (Employee Relation Policy) ที่ใช้เป็นแนวปฏิบัติในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัทฯ และพนักงาน ด้วยแนวความคิดที่ว่า พนักงานจะมีความผูกพันต่อองค์กรประกอบด้วยหลัก 3 ประการ คือ
บริษัทฯ สำรวจความผูกพันต่อองค์กร (Engagement Survey) โดยทำงานร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาภายนอกเป็นประจำทุกปี หลังจากนั้นจะนำผลการวิเคราะห์และข้อเสนอแนะจากพนักงานมาจัดทำแผนการสร้างความผูกพัน (Engagement Action plan) ทั้งในระดับองค์กรและระดับหน่วยงาน พร้อมทั้งมีการจัดทำระบบรายงานความคืบหน้าให้กับผู้บริหารทุกไตรมาส เพื่อเสริมสร้างความผูกพันต่อองค์กรอย่างต่อเนื่อง
บริษัทฯ ได้นำผลสำรวจความเห็นจากพนักงาน มาวิเคราะห์และปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นในการเสริมสร้างความผูกพันของพนักงานให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีแนวทางการบริหารจัดการแบ่งเป็น 3 มิติ ซึ่งมีผลทำให้คะแนนในมิตินี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่
1.ความสมดุลของการทำงานกับชีวิต (Work-Life Balance)
บริษัทฯ ให้ความสำคัญและส่งเสริมให้พนักงานทำงาน ให้เกิดความสมดุลในชีวิตด้วย Work-Life Balance หรือการใช้ชีวิตให้สมดุลกันทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิตมีสุขภาพที่ดี เช่น
- จัดให้มีระบบการทำงานแบบ Work Anywhere เป็นระบบที่ถูกออกแบบมา เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้ทุกที่ผ่านอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ เช่น อีเมล์และระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Teleconferencing) ที่บริษัทฯ จัดเตรียมให้ ทำให้พนักงานสามารถบริหารเวลาการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้เป็นอย่างดี
- จัดให้มีช่วงเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น (Flexible Working Hours) โดยให้พนักงานเลือกเวลาเข้าปฏิบัติงานได้ตั้งแต่เวลา 7:30, 8:00, 8:30, 9:00 และ 9:30 น.ตามลำดับ
- ปรับปรุงสวัสดิการ Flexible Benefits ให้มีความหลากหลายรายการมากขึ้น เพื่อให้ตรงกับความต้องการของพนักงานทุกระดับ
- จัดห้องออกกำลังกายสำหรับพนักงานที่สำนักงานกรุงเทพฯ อีกทั้งพนักงานยังสามารถเลือกที่จะเข้าร่วมชมรมกีฬา เช่น ชมรมกอล์ฟ ชมรมเดินวิ่ง ชมรมแบดมินตัน ชมรมเทนนิส และชมรมฟุตซอล เป็นต้น เพื่อให้พนักงานมีสุขภาพใจและร่างกายที่แข็งแรง
- จัดให้มีการให้คำปรึกษาในทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว Relationflip กับนักจิตวิทยาเป็นประจำทุกปี
- จัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ในการบริหารการเงินของตนเองให้กับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ
2. การเติบโตในสายงาน (Career Opportunity)
บริษัทฯ ได้จัดหลักสูตรเพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงานเตรียมความพร้อมในการเติบโตในสายงานแล้ว ประโยชน์ที่ได้รับยังเป็นการเสริมสร้างความผูกพัน ความเข้าใจระหว่างผู้บริหารและพนักงานให้ดียิ่งขึ้น เช่น การจัดหลักสูตร Engaging Leader & Great Coach Program อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาผู้บริหารให้เป็นผู้นำที่เสริมสร้างความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร โดยหลักสูตรเหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้บังคับบัญชาได้ฝึกฝนการรับฟังข้อเสนอแนะทั้งเรื่องงานและชีวิตส่วนตัวกับผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งมีความใกล้ชิดที่สามารถเรียนรู้ได้โดยตลอด รวมถึงการเน้นพัฒนาการสอนงาน (Coaching) การสร้างแรงจูงใจ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการพัฒนาทีมงานให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้สื่อสารเกณฑ์การประเมินผลการเลื่อนตำแหน่ง (Promotion Criteria) เพื่อให้พนักงานทุกระดับได้เข้าใจและเตรียมความพร้อมสำหรับตนเองในการเติบโตในสายงานต่อไป
3. ประสิทธิภาพในการสื่อสาร (Communication Effectiveness)
บริษัทฯ ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของการสื่อสารข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพนักงานให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยใช้ช่องทางสื่อสารที่สามารถเข้าถึงพนักงานได้ง่ายในหลายรูปแบบ เพื่อให้พนักงานเข้าใจนโยบายและแนวทางในการบริหารงานของบริษัทฯ มากขึ้น รวมทั้งเปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น เช่น การจัดกิจกรรม A Special Talk by CEO, Investor Relation Quarterly Communication อีเมลสื่อสารภายในเกี่ยวกับกิจกรรมและผลการดำเนินงานในบริษัทฯ เป็นต้น
บริษัทฯ ยึดหลัก 3 ประการ ในการบริหารงานด้านทรัพยากรมนุษย์ ได้แก่ หลักความเท่าเทียมกันของพนักงาน (Equitability) หลักการบริหารด้วยผลงาน (Performance Base) และหลักการบริหารและพัฒนาสมรรถนะขีดความสามารถ (Competency Base) โดยบริษัทฯ สนับสนุนการทำงานร่วมกันภายใต้ความหลากหลาย (Diversity) มาอย่างยาวนาน ทั้งด้านเชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม อายุ และประเทศที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการทำงานร่วมกัน และขับเคลื่อนนวัตกรรมของบริษัทฯ ให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

การบริหารผลการปฏิบัติงานนั้นเป็นกระบวนการสำคัญที่มีผลต่อการผลักดันองค์กรให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่ได้กำหนดไว้ นับเป็นการเชื่อมโยงความต้องการขององค์กรไปสู่เป้าหมายการทำงานของพนักงานแต่ละบุคคล และเป็นเครื่องมือทางการบริหารที่จะทำให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบถึงผลการปฏิบัติงาน และสมรรถนะของแต่ละบุคคล รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้บังคับบัญชาและผู้ปฏิบัติงานในการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จของงาน (KPI) ร่วมกัน ทำให้เกิดความร่วมมือ ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จขององค์กรในที่สุด
การกำหนดระบบประเมินผลงานที่มีความชัดเจน เป็นรูปธรรม สามารถวัดและประเมินความสำเร็จของบุคคลได้จึงเป็นสิ่งจำเป็นและสื่อข้อความให้พนักงานทุกได้รับทราบและนำไปใช้เป็นหลักปฏิบัติในการทำงาน เช่น
- การกำหนดระบบตัวชี้วัดผลงานหลัก หรือ Key Performance Indicator (KPI) ที่มีความเป็นธรรม เพื่อบริหารผลงานไปในทิศทางเดียวกันกับเป้าหมายของบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ปรับปรุงเกณฑ์การประเมินให้คะแนน KPI โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ KPI ตามผลงานหลัก (Work Base) คิดเป็นคะแนนร้อยละ 70 และ KPI จากการประเมินพฤติกรรมตามวัฒนธรรมองค์กร (Behavior Base) คิดเป็นคะแนนร้อยละ 30
- ปรับปรุงมาตรฐานในการประเมินผลการปฏิบัติงานให้มีแนวปฏิบัติเดียวกันทั้งองค์กร โดยกำหนดให้ตัวชี้วัดแต่ละตัวต้องมีเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างน้อย 1 เกณฑ์ จากจำนวน 4 เกณฑ์ ได้แก่ 1. เกณฑ์ด้านปริมาณ (Quantity) 2. เกณฑ์ด้านความก้าวหน้าของงานและเวลา (Progress and Time) 3. เกณฑ์ด้านการใช้งบประมาณ (Cost) 4. เกณฑ์ด้านความถูกต้องและคุณภาพงาน (Accuracy and Quality) พร้อมทั้งได้ทำการสื่อสารให้พนักงานรับทราบและเข้าใจถึงการปรับปรุงการประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน
- กำหนดตัวชี้วัดที่นอกเหนือจากงานของตนเอง เช่น ตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับทักษะการบริหารผู้ใต้บังคับบัญชา โดยบริษัทฯ ได้กำหนดตัวชี้วัดความเป็นผู้นำ (Leadership KPI) ให้กับพนักงานระดับผู้จัดการฝ่ายขึ้นไป เพื่อให้ผู้จัดการฝ่ายได้ตระหนักว่า นอกจากการบริหารการทำงานในหน่วยงานแล้ว การเอาใจใส่และดูแลผู้ใต้บังคับบัญชายังเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพัฒนางานในหน่วยงานให้ดียิ่งขึ้น