เป็นบริษัทพลังงานที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าในเอเชีย มุ่งเน้นถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นมิตรกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม
บ้านปู เพาเวอร์ ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2539 บริษัทฯ ได้จัดตั้งขึ้นการลงทุนและบริหารธุรกิจไฟฟ้าในประเทศไทย ลาว จีน และญี่ปุ่น คณะผู้บริหารของ บ้านปู เพาเวอร์ มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ในการดำเนินธุรกิจรวมถึงการร่วมลงทุนกับพันธมิตรเพื่อขยายกำลังการผลิต ของบริษัทฯ บริษัทฯมุ่งเน้นการบริหารจัดการโดยควบคุมคุณภาพการผลิตกระแสไฟฟ้าให้สูงกว่ามาตรฐานสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับ การมีส่วนร่วมต่อชุมชมผ่านกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทฯ
บ้านปู เพาเวอร์ ยังคงเดินหน้าตามแผนงานในการขยายกำลังการผลิตให้ได้มากกว่า 5,300 เมกะวัตต์เทียบเท่า กายในปี 2568 ประกอบด้วยพลังงานไฟฟ้าพื้นฐาน 4,500 เมกะวัตต์ และ การเติบโตของธุรกิจพลังงานหมุนเวียนผ่านการลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 50 ใน บริษัท Banpu NEXT ซึ่งทำให้มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นที่เป้าหมาย 800 เมกะวัตต์ ทั้งนี้เรามีการจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีโครงการที่มีการเซ็นสัญญาเรียบร้อย อยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้างตามแผนเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสีย
บ้านปู เพาเวอร์ แสวงหาโอกาสในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และพร้อมก้าวเข้าไปลงทุนโครงการด้านพลังงานหมุนเวียนรูปแบบต่างๆ อาทิเช่น พลังงานน้ำ ลม และ ชีวมวล โดยการขยายการลงทุนต่างๆ จะเป็นการลงทุนภายใต้การเจริญเติบโตของธุรกิจในบริษัท Banpu NEXT
โครงการหงสามีระยะเวลาในการซื้อขายไฟฟ้า 25 ปี นับตั้งแต่วันที่เริ่มซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ โดยหน่วยการผลิตที่ 1 สามารถผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายได้ตามกำหนด คือ วันที่ 2 มิถุนายน 2558 หน่วยการผลิตที่ 2 สามารถผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายได้ตามกำหนด คือ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 และ หน่วยการผลิตที่ 3 สามารถผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายได้ตามกำหนด คือ วันที่ 2 มีนาคม 2559
ตามลักษณะปฏิบัติของธุรกิจไฟฟ้าในประเทศจีน โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมของบ้านปู เพาเวอร์ ทั้ง 3 โรง จะมีการทำสัญาซื้อขายไฟฟ้าเป็นรายปี โดยมีข้อกำหนดในการต่ออายุทุกๆ ปี ในสัญญาดังกล่าวจะมีการระบุจำนวนของปริมาณการผลิตไฟฟ้าต่อปี ทั้งนี้ปริมาณการซื้อขายจริงอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามปัจจัยเกี่ยวข้องต่างๆ เช่น อาจมีความต้องการไอน้ำเพิ่มซึ่งต้องมีการผลิตทั้งไฟฟ้าและไอน้ำเพิ่มมากขึ้นเพื่อส่งเข้ายังสายส่ง ในส่วนของราคารับซื้อไฟฟ้าจะกำหนดโดยรัฐบาลกลางซึ่งมีแนวโน้มปรับตัวตามราคาเชื้อเพลิงหลักหรือถ่านหินในประเทศและปัจจัยเกี่ยวเนื่องอื่นๆ
บ้านปู เพาเวอร์ มีการลงทุนและดำเนินธุรกิจในหลากหลายประเทศ ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป สำหรับโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ในประเทศไทย ตามสัญญา PPA จะมีการ Pass – Through ของราคาเชื้อเพลิง ในขณะที่โรงไฟฟ้าหงสาในประเทศลาวเป็นโรงไฟฟ้าปากเหมือง (Mine – Mouth) ซึ่งมีการผลิตถ่านหินจากเหมืองของหงสาไปยังโรงไฟฟ้าโดยตรง จะมีการ Pass – Through ของราคาน้ำมันที่ใช้ในการดำเนินงานในเหมือง ที่อาจแปรผันตามราคาในตลาดโลก ส่วนที่ประเทศจีน โรงไฟฟ้ามีการซื้อถ่านหินที่ราคา Spot Market ทั้งนี้ราคารับซื้อไฟฟ้าและไอน้ำ มีแนวโน้มปรับตัวตามราคาเชื้อเพลิงหลักหรือถ่านหินในประเทศ
บริษัทฯ และบริษัทย่อยจะจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิของงบการเงินรวมหลังหักสำรอง ต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและบริษัทฯ กำหนดไว้ในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม อัตราการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับกระแสเงินสดและภาระการลงทุนของบริษัทฯ และบริษัทย่อย รวมถึงข้อกำหนดทางกฎหมายและความจำเป็นอื่นๆ
ผู้ถือหุ้นของบ้านปู จะไม่ได้รับการเครดิตภาษีเงินปันผล เพื่อใช้ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เนื่องจากเป็นการจ่ายจากเงินปันผลหรือส่วนแบ่งของกำไรที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล