By clicking “Accept All Cookies”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts.
Cookies Settings
การมีส่วนร่วมของชุมชน

ความสำคัญ

ชุมชนรอบโรงไฟฟ้านับเป็นผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญในการดำเนินงานของบริษัทฯ เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบตลอดระยะเวลาโครงการ การได้รับการยอมรับจากชุมชนจึงเป็นสิ่งที่แสดงถึงการพัฒนาที่ยั่งยืนของโครงการ

บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมและการรับฟังข้อคิดเห็นของชุมชนตั้งแต่เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ เพื่อนำข้อคิดเห็นหรือความกังวลใจของชุมชนมาออกแบบทางด้านวิศวกรรมเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และกำหนดมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันทั้งในช่วงดำเนินการก่อสร้างและดำเนินโครงการ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังสามารถนำข้อคิดเห็นจากการมีส่วนร่วมของชุมชนมาปรับปรุงการดำเนินงานและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ตรงกับความต้องการในพื้นที่

แนวทางการบริหารจัดการ

บริษัทฯ กำหนดให้มีการศึกษาด้านสังคม (Social Baseline Study) ในพื้นที่ในช่วงการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ โดยยึดแนวปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เพื่อที่จะเข้าใจสภาพเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ดำเนินโครงการ อีกทั้งยังกำหนดแนวปฏิบัติด้านการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน และนำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมตามบริบทในแต่ละพื้นที่

บริษัทฯ สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนโดยผ่านกระบวนการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้เสีย จำแนกกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบทางตรง ผู้ได้รับผลกระทบทางอ้อม และผู้ที่ได้ประโยชน์จากโครงการ ตั้งแต่เริ่มศึกษา เพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อกังวลใจ แล้วนำมาออกแบบโครงการและสร้างมาตรการลดผลกระทบทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่โดยทั่วไปจะจำแนกผู้มีส่วนได้เสียของโครงการตามระดับของผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโครงการ

การจำแนกอาจมีความแตกต่างกันตามสภาพพื้นที่และกฎหมายในแต่ละประเทศ ยกตัวอย่าง เช่น

  1. ชุมชนที่อยู่ในพื้นที่โครงการ ได้แก่ ชุมชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่โครงการ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการโยกย้ายถิ่นที่อยู่ เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในช่วงเริ่มโครงการ เนื่องจากการโยกย้ายถิ่นฐานนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตแบบเดิม อาจส่งผลต่อการประกอบอาชีพ วัฒนธรรม จารีต และอื่น ๆ จึงต้องมีการการทำความเข้าใจและวางแผนการโยกย้าย และการส่งเสริมให้ชุมชนในพื้นที่นี้ได้รับประโยชน์จากการโยกย้ายและได้รับผลกระทบน้อยที่สุด การโยกย้ายโดยไม่ได้สมัครใจนั้นเป็นสิ่งที่โครงการหลีกเลี่ยงและนับเป็นความท้าทายและส่งผลต่อความสำเร็จของโครงการ
  2. ชุมชนที่อยู่ใกล้โครงการมาก ได้แก่ ชุมชนที่อยู่ติดกับพื้นที่บริเวณโครงการหรืออยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร (รัศมีอาจมีการปรับเปลี่ยนตามแต่ละพื้นที่) ซึ่งถือว่าเป็นชุมชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และมีความใกล้ชิดกับโครงการมากที่สุด บริษัทฯ จึงถือว่าชุมชนในกลุ่มนี้เป็นผู้มีส่วนได้เสียที่มีความสำคัญในระดับมากที่สุดในระหว่างดำเนินโครงการ ชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้โครงการและชุมชนที่อยู่ในพื้นที่โครงการจึงเป็นชุมชนที่จะถูกพิจารณาได้รับโอกาสจากโครงการมากที่สุด เช่น โอกาสในการเข้าทำงานในโครงการ การส่งเสริมอาชีพ เป็นต้น
  3. ชุมชนที่อยู่ใกล้โครงการปานกลาง ได้แก่ ชุมชนที่อยู่ห่างจากโครงการออกไปมากกว่า 5 กิโลเมตร แต่ไม่เกิน 10 กิโลเมตร (รัศมีอาจมีการปรับเปลี่ยนตามแต่ละพื้นที่) หรือเป็นชุมชนที่บริษัทฯ ซื้อที่ดินเพื่อดำเนินงานแต่ไม่จำเป็นต้องโยกย้าย ซึ่งชุมชนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโครงการ แต่มีระดับของผลกระทบน้อยกว่าสองกลุ่มแรก บริษัทฯ จึงถือว่าชุมชนในกลุ่มนี้เป็นผู้มีส่วนได้เสียที่มีความสำคัญในระดับปานกลาง
  4. ชุมชนที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม ได้แก่ ชุมชนที่อยู่ห่างออกไป หรือเป็นชุมชนที่รองรับการย้ายถิ่นที่อยู่ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบทางอ้อม เช่น ความหนาแน่นจากการเพิ่มขึ้นของประชากร การคมนาคม เป็นต้น บริษัทฯ จึงถือว่าชุมชนในกลุ่มนี้เป็นผู้มีส่วนได้เสียที่มีความสำคัญในลำดับน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับสามกลุ่มแรก

บริษัทฯ จัดให้มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงในการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อจัดทำแผนการดำเนินงานที่เหมาะสมกับผู้มีส่วนได้เสียในชุมชนแต่ละกลุ่มอย่างเหมาะสม รวมถึงกลุ่มคนที่มีความเปราะบาง (vulnerable group) เช่น ผู้ที่ไม่สามารถปกป้องสิทธิ์ หรือมีอิสระในการตัดสินใจที่อาจได้รับผลกระทบ เช่น เด็ก คนชรา ผู้อพยพ กลุ่มชนพื้นเมือง เป็นต้น

โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ได้แก่ โรงไฟฟ้าหลวนหนาน เจิ้งติ้งและโจวผิงในประเทศจีน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมและเขตเมืองเพื่อผลิตไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำเย็นให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมและชุมชนนั้น บริษัทฯ จึงร่วมมือกับลูกค้า คู่ค้า ภาครัฐ และบริษัทข้างเคียงในการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน อีกทั้งชุมชนยังเป็นหนึ่งในลูกค้า ที่สำคัญ ในช่วงหน้าหนาวที่รับซื้อ ความร้อนจากโรงไฟฟ้า ดังนั้น โรงไฟฟ้าจึงต้องมีการดำเนินงานให้เป็นไปตามความคาดหวังของชุมชน กล่าวคือ มีการพัฒนาการดำเนินงานให้โรงไฟฟ้าสามารถดำเนินงานอย่างมีเสถียรภาพ สามารถจ่ายพลังงานความร้อนได้อย่างมีคุณภาพ สม่ำเสมอ และมีความยืดหยุ่นต่อความต้องการของชุมชน
โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I & II ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ห่างไกลจากชุมชน โดยโรงไฟฟ้าใช้น้ำที่ผ่านการบำบัดจากชุมชนมาใช้ในการดำเนินงานในโรงไฟฟ้า เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุดในการใช้ทรัพยากรน้ำ และลดการดึงน้ำธรรมชาติมาใช้ในกระบวนการผลิต

 

ผลการดำเนินงาน

  • ไม่มีข้อร้องเรียนที่มีนัยสำคัญจากชุมชน
  • ไม่เกิดเหตุการณ์ที่ธุรกิจหยุดชะงักจากข้อร้องเรียนของชุมชน

 

ตัวอย่างกิจกรรมและโครงการที่สำคัญ

เอกสารดาวน์โหลด

นโยบายการมีส่วนร่วมของชุมชน

แนวปฏิบัติด้านการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย

© 2024 Banpu Power Public Company Limited | บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน). All rights reserved.