ความสำคัญ
ความปลอดภัยในการทำงานเป็นเป้าหมายสูงสุดของการดำเนินงาน เนื่องจากการดำเนินงานที่ไม่ปลอดภัย อาจก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน รวมถึงอาจส่งผลต่อสภาพแวดล้อมและสุขภาพของพนักงาน ดังนั้น การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในเพื่อป้องกันอุบัติเหตุในเชิงรุกจึงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างสม่ำเสมอและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย กำหนดมาตรการป้องกันที่ชัดเจน การตรวจสอบผลการดำเนินงาน การส่งเสริมความรู้ สร้างความตระหนัก และการมีส่วนร่วมจากพนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน
สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยถือเป็นสิทธิมนุษยชนที่พนักงาน ผู้รับเหมา และผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ทำงานพึงจะได้รับอย่างเพียงพอและเท่าเทียมกัน อีกทั้งการส่งเสริมการมีส่วนร่วมให้พนักงานได้นำเสนอข้อคิดเห็นในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงาน จะเป็นการสร้างการมีส่วนร่วม สร้างขวัญกำลังใจ และความผูกพันต่อองค์กรอีกด้วย
แนวทางการบริหารจัดการ
บริษัทฯ มุ่งสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรโดยกำหนดเป้าหมาย 3 ประการ ( 3 ZEROs) ได้แก่
ในการดำเนินงานเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย BPP มีแนวทางการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย ดังนี้
- ความรับผิดชอบและหน้าที่ในด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ผู้บริหารตั้งแต่ระดับสูงสุดจนถึงผู้บริหารที่อยู่หน้างาน มีคำมั่นสัญญาและความรับผิดชอบในการสร้างความปลอดภัยในการทำงาน ตั้งแต่การออกแบบก่อสร้างจนถึงช่วงการปฏิบัติงาน ป้องกันแก้ไขสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย พฤติกรรมการทำงานที่ไม่ปลอดภัย กำหนดเป้าหมายการพัฒนาด้านความปลอดภัยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แสดงถึงความเป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างที่ดีด้านความปลอดภัย นอกจากนี้พนักงานทุกคนมีหน้าที่ในการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยซึ่งกันและกัน โดยกำหนดเป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานทั้งในผู้บริหารระดับสูงจนถึงพนักงานในระดับปฏิบัติการ
- ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และมาตรฐานการดำเนินงานด้านความปลอดภัยของบริษัทฯ BPP มีความเข้มงวดในการปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานการดำเนินงานที่ดีด้านความปลอดภัย มีการตรวจสอบความสอดคล้องตามกฎหมายและกฎด้านความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ โดยได้นำมาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัยที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมาใช้ในทุกหน่วยการผลิต
- จัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัย BPP ประเมินความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในทุกงาน โดยทุกหน่วยปฏิบัติงานจัดให้มีการป้องกันและลดความเสี่ยงอย่างเหมาะสม สำหรับงานที่มีความเสี่ยงในระดับความรุนแรงและความน่าจะเป็นสูง จะต้องมีแผนงานเพื่อลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้โดยทันที
- สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย BPP ส่งเสริมและให้คุณค่ากับการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในทุกพื้นที่ทั้งพนักงานและผู้รับเหมา ยกย่องการมีพฤติกรรมการทำงานที่ปลอดภัย มีการผสานเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรในการเอาใจใส่ดูแลซึ่งกันและกัน กล้าที่จะตักเตือนหากเห็นการทำงานที่ไม่ปลอดภัย
- ส่งเสริมให้พนักงานความรู้ความชำนาญด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างพอเพียง BPP สนับสนุนการให้ความรู้ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานรวมถึงผู้รับเหมามีความรู้ความสามารถเพียงพอในการทำงานอย่างปลอดภัย และมีการตรวจสอบ ทบทวนความรู้ความเข้าใจอย่างสม่ำเสมอ
- นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย BPP ส่งเสริมการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อปรับปรุงมาตรฐานการดำเนินงานด้านความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น เช่น การตรวจวัดสภาพแวดล้อมในการทำงาน และการรายงานความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
BPP บันทึกสถิติด้านความปลอดภัยโดยครอบคลุมผู้ปฏิบัติงาน (Worker) ทุกคนที่อยู่ในขอบข่ายการควบคุมงาน (Control work) และการควบคุมพื้นที่ (Control workplace) ได้แก่ พนักงาน ผู้รับเหมา และบุคคลที่ได้รับการอนุญาตให้เข้าพื้นที่ ส่วนผู้ปฏิบัติงานที่ไม่ได้อยู่ในขอบข่ายการควบคุมงานหรือการควบคุมพื้นที่นั้น จะบันทึกเป็นรายงานการเกิดอุบัติเหตุแต่ไม่นำมารวมในการคำนวณสถิติอุบัติเหตุ
ผลการดำเนินงาน
- ไม่มี ผู้เสียชีวิตจากการทำงาน
- อัตราความถี่ของการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานเป็นศูนย์
ตัวอย่างกิจกรรมและโครงการที่สำคัญ
กิจกรรมการส่งเสริมด้านความปลอดภัยในการทำงาน
บริษัทฯ จัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมด้านความปลอดภัยในการทำงาน เช่น
- ตรวจประเมินระดับวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน
- ฝึกอบรมและทดสอบเกี่ยวกับความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม กฎความปลอดภัยและความเสี่ยงในพื้นที่ก่อนเข้าปฏิบัติงานและทบทวนตามระยะเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
- ส่งเสริมความปลอดภัยและตรวจสอบสถานที่ปฏิบัติงานโดยผู้บริหารบริหารระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสอบด้านความปลอดภัยโดยพนักงาน หัวหน้างาน และเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในระหว่างปฏิบัติงาน
- ตรวจวัดสภาพแวดล้อมการทำงานให้มีความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ และรายงานผลเพื่อการปรับปรุง
- จัดตั้งคณะกรรมการปรับปรุงด้านความปลอดภัยในสำนักงานและโรงไฟฟ้า
- สื่อสารเพื่อให้เกิดความตระหนักด้านความปลอดภัยผ่านทางกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดกิจกรรมวันความปลอดภัย อีเมลประชาสัมพันธ์ เกมส์ โปสเตอร์ เป็นต้น
- ฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินโดยจำลองสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ และนำผลการฝึกซ้อมไปปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ
- จัดกิจกรรมวันความปลอดภัยเพื่อสื่อสารเป้าหมายด้านความปลอดภัยและสร้างความตระหนักให้แก่พนักงาน คู่ค้า และผู้รับเหมา
- สร้างแรงจูงใจเพื่อทำให้เกิดการทำงานที่มีความปลอดภัย เช่น รางวัลพิเศษแก่ผู้ที่เป็นตัวอย่างที่ดีด้านความปลอดภัย ผ่านการร่วมรายงานความเสี่ยงด้วยแอปพลิเคชัน SOS และการฉลองความสำเร็จร่วมกัน
การส่งเสริมสุขภาพของพนักงาน
บริษัทฯ จัดให้มีการส่งเสริมสุขภาพของพนักงาน เช่น
- ตรวจสุขภาพพนักงานประจำปี และตรวจวัดสมรรถภาพร่างกายตามความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากลักษณะการทำงาน
- ตรวจวัดสภาพแวดล้อมการทำงาน ทั้งในสำนักงานและหน่วยการผลิต และปรับปรุงให้อยู่ในมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ
- จัดทำประกันสุขภาพเพื่อการรักษาและประสานงานในการจัดหาวัคซีนให้กับพนักงาน เช่น วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโรคโควิค-19
- ส่งเสริมการออกกำลังกายและการรักษาสุขภาพ เช่น การจัดตั้งชมรมกีฬา การให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รวมถึงจัดให้มีเทรนเนอร์ด้านการออกกำลังกายเป็นรายบุคคลสำหรับพนักงานที่สนใจ
- จัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาระหว่างพนักงานและผู้รับเหมา
- โครงการที่ปรึกษาด้านจิตวิทยา iSTRONG โดยผู้ให้บริการด้านจิตวิทยาภายนอก เพื่อให้พนักงานสามารถปรึกษาด้านจิตวิทยาเพื่อลดความเครียด ทั้งด้านชีวิตส่วนตัวและการทำงาน โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บเป็นความลับ
- โครงการพบแพทย์ด้วยระบบออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Health at Work โดยพนักงานสามารถนัดหมาย และพบแพทย์เบื้องต้นทางออนไลน์ จากนั้นแพทย์จะสั่งจ่ายยาแล้วส่งให้กับพนักงาน
- บริการห้องพยาบาลและปฐมพยาบาล ให้บริการโดยพยาบาลวิชาชีพ โดยสามารถวินิจฉัยโรคเบื้องต้น จ่ายยา ทำแผล ตลอดจนให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ
- โครงการ Flexible Benefit สนับสนุนงบประมาณปีละ 12,000 บาท ให้กับพนักงานเพื่อใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ร่วมถึงเพื่อสุขภาพ เช่น ค่าใช้จ่ายในการตรวจรักษาเพิ่มเติม ค่าสมาชิกสปอร์ตคลับและ อุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานอย่างถูกหลักกายศาสตร์จากการทำงานที่บ้าน เป็นต้น
ระบบตรวจสอบและควบคุมอัจฉริยะสถานีแลกเปลี่ยนความร้อน โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมเจิ้งติ้ง
โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมเจิ้งติ้ง ตั้งอยู่ในเมืองฉือเจียจวง เขตเจิ้งติ้ง มณฑลเหอเป่ สาธารณรัฐประชาชนจีน มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 139 เมกะวัตต์ ผลิตความร้อนราวปีละ 10 ล้านจิกะจูลให้กับผู้ใช้ในเขตเจิ้งติ้ง ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยราว 58,000 ราย และภาคอุตสาหกรรม การค้าและอื่น ๆ มากกว่า 180 ราย โดยเป็นโรงไฟฟ้าโรงเดียวที่ผลิตความร้อนเข้าสู่ระบบทำความร้อนแบบรวมศูนย์ (Centralized heating system) ในพื้นที่ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อประชาชนในช่วงฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิกลางแจ้งเฉลี่ยราว 0.3 องศาเซลเซียส
โรงไฟฟ้าเจิ้งติ้ง ได้ดำเนินการเพื่อสร้างเสถียรภาพในการส่งความร้อนและปรับปรุงด้านความปลอดภัย โดยการติดตั้งอุปกรณ์และสร้างระบบตรวจสอบแบบเรียลไทม์จากระยะไกลที่ใช้กับสถานีแลกเปลี่ยนความร้อน เพื่อแทนที่การเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่โดยพนักงาน ลดความเสี่ยงและเวลาในการปฏิบัติงานจากการเข้าไปในพื้นที่สถานีแลกเปลี่ยนความร้อน อีกทั้งยังทำให้ตรวจสอบความผิดปกติได้อย่างรวดเร็วทำให้สามารถแก้ไขได้ทันที เพิ่มเสถียรภาพในการจ่ายความร้อนของโรงไฟฟ้า
การติดตั้งอุปกรณ์การตรวจสอบและควบคุมความร้อนอัจฉริยะได้แก่ ดังนี้
- การตรวจสอบด้วยกล้องวิดีโอจากระยะไกล
- ควบคุมและปรับความถี่การหมุนเวียนของเครื่องสูบน้ำจากระยะไกล
- ควบคุมและปรับอัตราการไหลของไอน้ำและน้ำร้อนจากระยะไกลในสถานีแลกเปลี่ยนความร้อน
- ระบบเก็บข้อมูลเกี่ยวกับความดันและอุณหภูมิจากอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบ เช่น เครื่องสูบน้ำ วาล์วปรับความดัน ถังเก็บน้ำ เป็นต้น
จากการดำเนินโครงการ ทำให้โรงไฟฟ้าเจิ้งติ้งสามารถลดจำนวนพนักงานที่เข้าไปตรวจสอบสถานีแลกเปลี่ยนความร้อนจาก 200 คน เหลือเพียง 40 คน ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของพนักงานจากการต้องสัมผัสกับเสียงและความร้อน และสามารถลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ไฟฟ้าได้ราว 18.4% หรือ 864,000 หยวน/ ปี โดยเมื่อประเมินผลโครงการด้านความปลอดภัยด้วยเครื่องมือวัดผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน (Social Return on Investment: SROI) แล้ว โครงการนี้สร้างมูลค่าราว 5.67 ล้านหยวน
นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าเจิ้งติ้งยังยกระดับอุปกรณ์ทำความร้อนให้สามารถผลิตความร้อนได้ตามการขยายตัวของประชากรในเขตเจิ้งติ้ง ตลอดจนปรับปรุงการตรวจสอบอุปกรณ์ จัดทำและซ้อมแผนฉุกเฉิน รวมถึงได้รับการรับรองระบบมาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (ISO 45001) อย่างต่อเนื่อง ทำให้โรงไฟฟ้าดำเนินงานอย่างมีเสถียรภาพและความปลอดภัย ไม่มีอุบัติเหตุจากการทำงาน สามารถรักษาค่าดัชนีความพร้อมจ่ายได้ในระดับสูงคือ ร้อยละ 94.04 และได้รับรางวัล Advanced Unit of Central Heating จากภาครัฐ
โครงการจัดทำแอปพลิเคชัน Double Control เพื่อใช้ในการเข้าทำงานซ่อมบำรุงด้วยความปลอดภัยในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมหลวนหนาน
โดยปกติโรงไฟฟ้าจะต้องมีการวางแผนซ่อมบำรุงเพื่อให้เครื่องจักรสามารถดำเนินการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง โดยฝ่ายซ่อมบำรุงจะดำเนินการโดยต้องจัดทำเอกสารระบุรายละเอียดในการทำงาน บุคคลที่เข้าทำงานในพื้นที่ ระยะเวลาในการดำเนินงาน และการประเมินความเสี่ยงเพื่อให้ฝ่ายผลิตพิจารณาและตัดระบบการทำงานบางส่วนเพื่อการดำเนินงานที่ปลอดภัยของฝ่ายซ่อมบำรุง โดยเอกสารดังกล่าวมีเป็นจำนวนมาก ต้องมีการส่งไปยังแผนกต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบ เช่นฝ่ายผลิต และฝ่ายความปลอดภัย เป็นต้น ทำให้มีการสูญหายในระหว่างการดำเนินงาน และต้องใช้งานร่วมกันหลายฝ่าย ทำให้ไม่มีความสะดวก และยากในการเข้าถึงข้อมูลความเสี่ยงในการทำงานซ่อมแต่ละครั้ง หรือหากเอกสารสูญหายจะทำให้ไม่สามารถตรวจสอบย้อน
โรงไฟฟ้าหลวนหนานจึงได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Double Control ขึ้น เพื่อใช้ทดแทนการดำเนินงานด้านเอกสารทั้งหมดในรูปแบบดิจิทัล ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการสร้างเอกสารเพื่อขออนุมัติ ให้การอนุมัติ ตรวจสอบข้อมูลพร้อมกัน และป้องกันเอกสารสูญหาย ทำให้การดำเนินงานซ่อมเป็นไปด้วยความราบรื่น มีความปลอดภัยในการทำงาน โดยสามารถประหยัดเวลาได้ราวร้อยละ 50 โดยเมื่อมีการประเมินผลโครงการด้านความปลอดภัยด้วยเครื่องมือวัดผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน (Social Return on Investment: SROI)แล้ว คิดเป็นมูลค่าราว 104,800 หยวน โดยประเมินมูลค่าจากการประหยัดเวลา การเพิ่มความรู้ให้กับพนักงาน เก็บเอกสารเพื่อการตรวจสอบย้อนหลังตามกฎหมาย และความปลอดภัยที่เกิดขึ้นจากการใช้แอปพลิเคชัน โดยยังไม่รวมมูลค่าจากการขยายผลไปยังโรงไฟฟ้าอื่น ๆ ของบริษัท
ในปีที่ผ่านมาโรงไฟฟ้าหลวนหนานไม่มีอุบัติเหตุรายแรงในการทำงาน ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (ISO 45001) อย่างต่อเนื่อง และได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานประกอบการที่มีการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยดีเด่น (Occupational Health Enterprises) และรางวัลด้านการจัดการด้านแรงงานดีเด่น (Prefectural workers’ vanguard) จากภาครัฐ
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อความปลอดภัยในกิจกรรมที่มีความเสี่ยง
กิจกรรมที่มีความเสี่ยงในการดำเนินการผลิตและการบำรุงรักษา เช่น การตรวจพื้นที่ที่มีความเสี่ยง การปฏิบัติงานกับไฟฟ้าแรงสูง และกระบวนการเริ่ม/หยุด การทำงานของหม้อไอน้ำและกังหันไอน้ำในโรงไฟฟ้า เป็นต้น เป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ต้องมีการป้องกันอย่างเข้มงวดเนื่องจากอาจก่อให้เกิดผลกระทบสูงต่อผู้ปฎิบัติงานและการดำเนินงานของบริษัทฯ
เพื่อมั่นใจว่าการปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงเป็นไปด้วยความถูกต้องและปลอดภัย โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในจีนทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าหลวนหนาน เจิ้งติ้ง และโจวผิง ได้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาอุปกรณ์และระบบการเฝ้าระวังขณะปฏิบัติงาน ประกอบด้วย
- หมวกนิรภัยอัจฉริยะ (Smart Helmet) เป็นหมวกนิรภัยที่มีการติดตั้งกล้องช่วยให้ผู้ควบคุมงานสามารถตรวจสอบ เฝ้าระวังและช่วยเหลือผู้ปฏิบัติงานได้จากระยะไกล ผู้ควบคุมงานสามารถสื่อสารกับผู้ปฏิบัติงานได้โดยตรงผ่านหมวกอัจริยะและแจ้งเตือนได้ทันทีหากเกิดสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย หรือไม่เป็นไปตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน โดยในปี 2567 อุปกรณ์นี้สามารถตรวจสอบและแก้ไขการปฏิบัติงานที่ไม่ปลอดภัยได้ 144 รายการ
- ระบบเฝ้าระวังด้วยกล้องเคลื่อนย้ายได้ (Removable Camera Monitoring System) เป็นอุปกรณ์กล้องถ่ายทอดสด บันทึกและตรวจสอบการทำงานของผู้ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามขั้นตอนการปฏิบัติงานและปลอดภัย โดยหัวหน้างานและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถติดตามการปฏิบัติงานของพนักงานและผู้รับเหมาได้ตลอดเวลาผ่านอุปกรณ์ดังกล่าว ในปี 2567 ระบบเฝ้าระวังด้วยกล้องเคลื่อนย้ายได้ สามารถตวรจสอบการปฏิบัติงานได้ 161 รายการ โดยตรวจพบและแก้ไขการปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยได้ 22 รายการ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับความปลอดภัยในโรงไฟฟ้า เป็นการดำเนินงานเชิงรุกเพื่อบรรลุเป้าหมาย “อันตรายเป็นศูนย์” โดยการเฝ้าระวัง สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ดำเนินงานในปี 2567 โรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง สามารถดำเนินงานด้วยความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงจากการทำงาน อัตราการเสียชีวิตจากการทำงาน และอัตราความถี่ของการบาดเจ็บจากการทำงานถึงขั้นหยุดงานของพนักงานและผู้รับเหมาเป็นศูนย์
การประเมินระดับความเป็นเลิศด้านความปลอดภัย
ตั้งแต่ปี 2561 BPP ดำเนินโครงการประเมินระดับความเป็นเลิศด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยใช้แบบสำรวจตามแบบจำลอง Safety Maturity Level ของ The UK Health and Safety Executive (UK HSE) ซึ่งจัดเป็น 5 ระดับ ดังนี้
infographic ระดับความเป็นเลิศด้านความปลอดภัย (อาจทำเป็นขั้นบันไดหรือทางเดิน จาก 1-5)
- ระดับ 1: เริ่มต้น (Emerging)
- ระดับ 2: บริหารจัดการ (Managing)
- ระดับ 3: มีส่วนร่วม (Involving)
- ระดับ 4: ร่วมมือ (Cooperating)
- ระดับ 5: ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continually Improving)
ประเมินระดับความเป็นเลิศด้านความปลอดภัยเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยของบริษัทฯ โดยใช้ผลสำรวจการรับรู้ด้านความปลอดภัยในการทำงานร่วมกับการประเมินสภาพแวดล้อมและการปฏิบัติงานในพื้นที่ แล้วนำมาจัดทำแผนการปรับปรุงด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
การประเมินระดับความเป็นเลิศด้านความปลอดภัยจะจัดขึ้นทุกปีหมุนเวียนไป โดยแต่ละโรงไฟฟ้าจะได้รับการประเมินอย่างน้อยทุก 3 ปี ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ประเมินระดับความเป็นเลิศด้านความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3 แห่งในจีน ได้แก่ โรงไฟฟ้าจินซาน ฮุ่ยเหนิง และฮุ่ยเอิน ซึ่งโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง มีผลการประเมินอยู่ในระดับที่ 3 มีส่วนร่วม (Involving)
ปัจจุบันโรงไฟฟ้าในจีนได้รับการประเมินครบทุกแห่งแล้วได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 3 แห่ง และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 7 แห่ง ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้า 3 แห่ง มีผลการประเมินอยู่ในระดับที่ 4 ร่วมมือ (Cooperating) และโรงไฟฟ้า 7 แห่ง มีผลการประเมินอยู่ในระดับที่ 3 มีส่วนร่วม (Involving) ซึ่งผลของการประเมินในแต่ละพื้นที่ ได้ถูกนำมาจัดทำแผนการพัฒนาการดำเนินงานเพื่อความปลอดภัยจำนวนทั้งสิ้น 12 โครงการ
เอกสารดาวน์โหลด
นโยบายอาชีวอนามัยและความปลอดภัย