By clicking “Accept All Cookies”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts.
Cookies Settings
บ้านปู เพาเวอร์ฯ รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2560

บ้านปู เพาเวอร์ฯ รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2560

  • กำไรเติบโตอย่างมั่นคง กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 2,011 เมกะวัตต์เทียบเท่า 
  • โรงไฟฟ้าหงสาเดินเครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้าครบทั้ง 3 หน่วยผลิต อย่างต่อเนื่อง   
  • เดินหน้า COD โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศจีนและญี่ปุ่น พร้อมทั้งพัฒนาโครงการตามเป้าขยายกำลังการผลิตถึง 2,600 เมกะวัตต์เทียบเท่า ภายในปี 2563

บริษัท  บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากทั้งพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป (Conventional Power Generation) และพลังงานหมุนเวียน (Renewable Power Generation) ในภูมิภาคเอเชีย ในกลุ่มบ้านปูฯ รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2560 โดยมีรายได้ 1,931   ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 1,737 ล้านบาท กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) คิดเป็น 1,384 ล้านบาท  ในขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,046 ล้านบาท นอกจากนั้น  ในไตรมาสนี้บ้านปู เพาเวอร์ฯ ได้ขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 77 เมกะวัตต์ เป็น 2,011 เมกะวัตต์เทียบเท่า และยังคงเดินหน้าตามแผนการดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหลากหลายรูปแบบทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อขยายกำลังการผลิต  ให้ได้ถึง 4,300 เมกะวัตต์เทียบเท่า โดยมีพลังงานหมุนเวียนในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ภายในปี 2568

นายวรวุฒิ ลีนานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลประกอบการของบ้านปู เพาเวอร์ฯ ในไตรมาสแรกของปี 2560 ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความต่อเนื่องของการดำเนินงานและรายได้ที่มั่นคงจากโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในประเทศไทย สปป.ลาว จีน และญี่ปุ่น ขณะเดียวกันก็มีความคืบหน้าในการขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเรามีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 2,011 เมกะวัตต์ ซึ่งมาจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน 1,857 เมกะวัตต์เทียบเท่า และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีก 154 เมกะวัตต์ ในไตรมาสนี้ โรงไฟฟ้าหงสายังคงเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าครบทั้ง 3 หน่วยผลิต ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Hui’en และ Deyuan กำลังการผลิตรวม 70 เมกะวัตต์ ก็ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเรายังได้ลงนามในสัญญาเพื่อสิทธิ์ในการลงทุนโครงการ Xingyu ขนาด 10 เมกะวัตต์เพิ่มเข้ามาอีกด้วย สำหรับก้าวต่อไป บริษัทฯ จะมุ่งพัฒนาทุกโครงการตามแผนระยะ 5 ปี โดยเดินหน้าจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงพิจารณาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ในธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากทั้งพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปและพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชีย  ด้วยสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจ”

สำหรับผลดำเนินงานของโรงไฟฟ้าในประเทศต่างๆ ของบ้านปู เพาเวอร์ฯ นั้น ในประเทศไทย โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีรายงานส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงาน 752 ล้านบาท ในสปป. ลาว โรงไฟฟ้าหงสา มีส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงาน 570 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 80 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลบวกจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ครบทั้ง 3 หน่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงไฟฟ้าหงสาหน่วยที่ 1 สามารถเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องเต็มทั้งไตรมาสโดยไม่หยุดชะงัก ทั้งนี้ ผลกำไรสุทธิของโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งข้างต้น ไม่ได้รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน*  ส่วนแบ่งกำไรจากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าหงสาในไตรมาสนี้จะสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อกลางปี 2558 ด้านประเทศจีน โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าหลวนหนาน (Luannan) โรงไฟฟ้าเจิ้งติ้ง (Zhengding) และโรงไฟฟ้าโจวผิง (Zouping) สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง จำนวน 1,804 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากความต้องการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รายงานรายได้รวมจำนวน 127 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 140 โดยมาจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 70 เมกะวัตต์ ของโครงการ Hui’en และ Deyuan ซึ่งได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

บ้านปู เพาเวอร์ฯ มุ่งสร้างการเติบโตในธุรกิจผลิตไฟฟ้าและไอน้ำทั้งจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป และพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน บริษัทฯ มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปอีก 484 เมกะวัตต์เทียบเท่าจากโครงการขยายโรงไฟฟ้าพลังงานร่วมโจวผิงระยะที่ 4  โรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง (Shanxi Lu Guang) ซึ่งในขณะนี้มีความคืบหน้าในการก่อสร้างแล้วเสร็จอยู่ที่ร้อยละ 42 และโครงการขยายโรงไฟฟ้าพลังงานร่วมหลวนหนานระยะที่ 2 โดยทั้ง 3 โครงการจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในกลางปีนี้  ปี 2562 และ 2563 ตามลำดับ ส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจะมีเพิ่มอีก 107 เมกะวัตต์ จากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศจีนและญี่ปุ่นรวม 9 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2563 ที่จะมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 2,600 เมกะวัตต์เทียบเท่า

“บ้านปู เพาเวอร์ฯ ได้สร้างการเติบโตของสินทรัพย์มาอย่างต่อเนื่องในทุกประเทศที่เราดำเนินธุรกิจไฟฟ้าอยู่ เราจึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถขยายกำลังการผลิตให้ได้ถึง 4,300 เมกะวัตต์เทียบเท่า ด้วยพลังงานหมุนเวียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ภายใน  ปี 2568 โดยมุ่งแสวงหาโอกาสการลงทุนด้านพลังงานในประเทศเป้าหมาย ได้แก่ ประเทศไทย สปป.ลาว จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และเวียดนาม ขณะเดียวกันเรายังเน้นการนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้กับโรงไฟฟ้าทุกโครงการที่จะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ พร้อมควบคุมการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างให้เสร็จสมบูรณ์ตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าในระดับภูมิภาคที่สร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน”  นายวรวุฒิ กล่าวปิดท้าย

*สำหรับผลขาดทุนจากการแปลงค่าเงินในไตรมาส 1/2560 เป็นการรับรู้ขาดทุนในทางบัญชีและไม่ได้กระทบกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน โดยส่วนแบ่งกำไรจากทั้งโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี และโรงไฟฟ้าหงสาได้รวมถึงการรับรู้ขาดทุนจากการแปลงค่าเงินจำนวน 198 ล้านบาทและ 410 ล้านบาทตามลำดับ สืบเนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาทเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่มีผลกระทบต่อการแปลงค่าของงบดุล

# # #

เกี่ยวกับบ้านปู เพาเวอร์ฯ 
บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากทั้งพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป (Conventional Power Generation) และพลังงานหมุนเวียน (Renewable Power Generation) ในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ประเทศไทย สปป.ลาว จีน และญี่ปุ่น ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา บ้านปู เพาเวอร์ฯ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อการผลิตไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจไฟฟ้าในระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน  สำหรับสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2560 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 43,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 577 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559

© 2024 Banpu Power Public Company Limited | บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน). All rights reserved.