By clicking “Accept All Cookies”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts.
Cookies Settings
BPP เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าเป็นสองเท่าในสหรัฐฯ เข้าลงทุนใน “Temple II” โรงไฟฟ้าก๊าซเทคโนโลยี CCGT พร้อมรับรู้รายได้ทันที

BPP เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าเป็นสองเท่าในสหรัฐฯ เข้าลงทุนใน “Temple II” โรงไฟฟ้าก๊าซเทคโนโลยี CCGT พร้อมรับรู้รายได้ทันที

บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าคุณภาพระดับสากลที่ยึดมั่นในการส่งมอบพลังงานที่ยั่งยืน ได้เข้าซื้อบริษัท CXA Temple 2, Holdco, LLC ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple II ขนาด 755 เมกะวัตต์ ที่ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา การเข้าซื้อกิจการของโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วครั้งนี้ส่งผลให้ BPP มีโอกาสเติบโตอย่างโดดเด่นในสหรัฐฯ เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการผสานพลังร่วมกับโรงไฟฟ้า Temple I ซึ่งมีอยู่เดิม รวมไปถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดได้ทันที

ข้อตกลงนี้ทำผ่านบริษัท Temple Generation Intermediate Holdings II, LLC1 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BPP ส่งผลให้ BPP สามารถเพิ่มกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนได้ราว 378 เมกะวัตต์

นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การลงทุนในครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ Greener & Smarter ของ BPP และนับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในประเทศยุทธศาสตร์ การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวยังเป็นการต่อยอดระบบนิเวศทางธุรกิจของ BPP ซึ่งปัจจุบันกำลังขยายไปยังหน่วยธุรกิจอื่น ๆ ตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I ตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี ERCOT (Electric Reliability Council of Texas) ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ผู้นำของตลาดซื้อขายไฟฟ้าที่มีอัตราการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าครัวเรือน (Power Retail) อีกด้วย

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I ที่มีอยู่เดิม รวมถึงทำเลที่ตั้งที่ใกล้เคียงกันของโรงไฟฟ้า Temple I และ Temple II ทำให้เราสามารถผสานพลังและสร้างคุณค่าร่วมกัน ช่วยให้การดำเนินการและบริหารจัดการโรงไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้การผลิตไฟฟ้ามีความยืดหยุ่นและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น สามารถคว้าโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้นในตลาดไฟฟ้าเสรี รวมไปถึงการบริหารจัดการทรัพยากรร่วมกันเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด นำไปสู่การดำเนินธุรกิจที่สามารถบริหารต้นทุนต่อหน่วยได้ต่ำลงและสร้างผลตอบแทนได้สูงขึ้นในที่สุด (Economies of Scale)”

สำหรับจุดเด่นของโรงฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple II แบ่งได้เป็น 4 ข้อหลัก คือ 1) เป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยี Combined Cycle Gas Turbines (CCGT) ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง มีความยืดหยุ่นสูง และอยู่ในลำดับการเรียกจ่ายไฟฟ้า (merit order) ที่ดี ซึ่งสอดรับกับสภาพตลาดและการแข่งขันในตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรีของ ERCOT อีกทั้งมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการควบคุมการปล่อยมลสาร ด้วยเหตุนี้ Temple II จึงถือเป็นหนึ่งในผู้นำโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในสหรัฐอเมริกา  2) มีกำลังผลิตไฟฟ้าที่สามารถรองรับการใช้ไฟฟ้าได้ประมาณ 750,000 ครัวเรือนทั่วรัฐเท็กซัสตอนกลาง จึงมีบทบาทสำคัญในการจ่ายไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของภูมิภาคดังกล่าว 3) ตั้งอยู่ในตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่เอื้อให้สามารถจำหน่ายไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตอบสนองความต้องการตลาดซื้อ-ขายไฟฟ้าเสรีที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ และยังอยู่ในทำเลเดียวกันกับโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I จึงส่งเสริมประสิทธิภาพในการผลิต การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ตลอดจนทำให้ BPP มีโอกาสสร้างกำไรในตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรีได้ 4) การมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นนี้ช่วยเสริมข้อได้เปรียบของ BPP ในการบริหารจุดคุ้มทุนและการกระจายความเสี่ยงที่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจไฟฟ้าของบริษัทฯ

“การลงทุนครั้งนี้ คาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 3/2566  ทั้งนี้ BPP ยังคงมุ่งมั่นแสวงหาโอกาสการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยี HELE ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศยุทธศาสตร์ทั้ง 8 แห่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างสมดุลของพอร์ตธุรกิจทั้งจากพลังงานความร้อน (Thermal Power Business) และจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Power Business) และเดินหน้าขยายกำลังผลิตสู่เป้าหมาย 5,300 เมกะวัตต์ภายในปี 2568” นายกิรณกล่าวสรุป

[1] บริษัท Temple Generation Intermediate Holdings II, LLC ถือหุ้นร้อยละ 100 โดยบริษัท BKV-BPP Power, LLC (“BKV-BPP”) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งโดย Banpu Power US Corporation (“BPPUS”) ซึ่ง BPP ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 และ BKV Corporation (“BKV”) ซึ่งบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 96.1 โดยถือหุ้นในสัดส่วนที่เท่ากันคือร้อยละ 50 ทั้งนี้ สัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น BKV-BPP มีการกำหนดโครงสร้างการบริหารจัดการ โดยให้กลุ่มบริษัทฯ มีอำนาจในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ทางการเงินและการดำเนินงานในกิจกรรมเชิงเศรษฐกิจต่าง ๆ ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ มีอำนาจในการควบคุม จึงจัดประเภทเป็นบริษัทย่อย

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจ BPP ได้ที่ www.banpupower.com

###

 

ข้อมูลโรงไฟฟ้าและโครงการโรงไฟฟ้าของ BPP ณ วันที่ 11 กรกฎาคม 2566

โรงไฟฟ้าและโครงการโรงไฟฟ้า โครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา
จำนวน (แห่ง/โครงการ)
41 39 2
กำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุน (เมกะวัตต์)
3,689 3,516 173

# # #

เกี่ยวกับ BPP

บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าคุณภาพระดับสากล ที่ยึดมั่นในการส่งมอบพลังงานที่ยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Powering Energy Sustainability with Quality Megawatts” (มุ่งสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานด้วยเมกะวัตต์คุณภาพ) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครอบคลุมประเทศไทย ลาว จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา BPP มุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อการผลิตไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ด้วยเป้าหมายขยายกำลังผลิตให้ได้มากกว่า 5,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568

© 2024 Banpu Power Public Company Limited | บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน). All rights reserved.