By clicking “Accept All Cookies”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts.
Cookies Settings
BPP เผยไตรมาส 3 ปี 2566 กำไรแข็งแกร่ง จากผลดำเนินงานสองโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ พร้อมดันพอร์ตธุรกิจไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่องในประเทศยุทธศาสตร์

BPP เผยไตรมาส 3 ปี 2566 กำไรแข็งแกร่ง จากผลดำเนินงานสองโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ พร้อมดันพอร์ตธุรกิจไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่องในประเทศยุทธศาสตร์

  • กำไรสุทธิ 2,099 ล้านบาท และ EBITDA จำนวน 7,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 289 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนศักยภาพพลังร่วมของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I และ Temple II ในสหรัฐฯ
  • ร่วมลงทุนใน SVOLT Thailand ผ่านบ้านปู เน็กซ์ เสริมแกร่งธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย
  • กำลังผลิตปัจจุบันรวม3,685 เมกะวัตต์ มุ่งขยายระบบนิเวศทางธุรกิจของ BPP ให้เติบโตอย่างยั่งยืนใน 8 ประเทศยุทธศาสตร์

บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าคุณภาพระดับสากลที่ยึดมั่นในการส่งมอบพลังงานที่ยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Powering Energy Sustainability with Quality Megawatts (มุ่งสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานด้วยเมกะวัตต์คุณภาพ)” รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2566 ด้วยกำไรสุทธิ 2,099 ล้านบาท โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) รวม 7,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 289 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาส 3 นี้ BPP ยังคงความสามารถในการรักษาเสถียรภาพการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าทุกแห่งได้อย่างมั่นคง มีการบริหารจัดการความเสี่ยงของราคาค่าไฟที่มีความผันผวนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเร่งสร้างพอร์ตโฟลิโอที่สมดุลจากทั้งพลังงานความร้อน (Thermal Power Business) และพลังงานหมุนเวียน (Renewable Power Business) ส่งผลให้ BPP มีกระแสเงินสดและกำไรที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายกำลังผลิต 5,300 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 ภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 ส่วนหลักมาจากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติทั้ง 2 แห่งในสหรัฐฯ ได้แก่ Temple I ที่บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนเมื่อปลายปี 2564 และ Temple II เมื่อกลางปี 2566 ซึ่งรับรู้รายได้รวม 15,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 289 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติทั้งสองแห่งมีค่าความพร้อมจ่าย (Equivalent Availability Factor: EAF) สูงถึงร้อยละ 99 นับเป็นโรงไฟฟ้าในตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี ERCOT (Electric Reliability Council of Texas) ที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพในการผลิตเพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ตอบสนองความต้องการไฟฟ้าสูงที่สุดในรอบปีในช่วงฤดูร้อนของรัฐเท็กซัส ที่ประสบกับวิกฤตคลื่นความร้อน (heat wave) ปัจจัยดังกล่าวทำให้ BPP สามารถสร้างกระแสเงินสดและทำกำไรในช่วงที่มีอากาศร้อนจัดและราคาค่าไฟสูงขึ้น อันเป็นผลที่เกิดขึ้นสอดคล้องกันตามกลไกตลาด

นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลประกอบการที่โดดเด่นของโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ Temple I และ Temple II ในสหรัฐฯ สะท้อนถึงความสำเร็จในการลงทุนและบริหารจัดการโรงไฟฟ้าคู่แฝดในตลาดที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยบวกทั้งสภาพอากาศฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น อีกทั้งมีมาตรการบริหารความเสี่ยงเพื่อรักษากระแสเงินสดโดยใช้เครื่องมือทางการเงินรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการทำประกันราคาสำหรับโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งนี้ด้วยกำลังผลิต 700 เมกะวัตต์ หรือประมาณร้อยละ 50 ของกำลังผลิตทั้งหมดในช่วงไตรมาส 4/2566 ถึงไตรมาส 4/2567 เพื่อป้องกันความผันผวนของรายได้แม้ไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่น รวมถึงมีแผนรับมือและแผนซ่อมบำรุงเพื่อเตรียมความพร้อมล่วงหน้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโรงไฟฟ้าคู่แฝดนี้จะสามารถจ่ายไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่องตลอดช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง”

นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี (BLCP) ในไทยยังสามารถเดินเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีค่าความพร้อมจ่าย (Equivalent Availability Factor: EAF) สูงถึงร้อยละ 99.9 ทำให้สามารถผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมทั้ง 3 แห่ง รวมถึงโรงไฟฟ้า SLG ในจีนมีรายได้จากการขายไฟเพิ่มสูงขึ้นจากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน ขณะเดียวกัน ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในไตรมาส 3/2566 ของ BPP ยังเติบโตอย่างมั่นคง โดยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามรับรู้รายได้รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่โครงการโซลาร์รูฟท็อปภายใต้นโยบายสนับสนุนของรัฐบาลท้องถิ่นในมณฑลเจิ้งติ้ง ประเทศจีน ปัจจุบันมีกำลังผลิต 66 เมกะวัตต์ BPP ยังคงเดินหน้าเพิ่มเมกะวัตต์อย่างต่อเนื่องด้วยศักยภาพที่คาดว่าสามารถพัฒนาได้ถึง 167 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566 นี้

ในส่วนธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานที่ BPP ถือหุ้นในบ้านปู เน็กซ์ในสัดส่วนร้อยละ 50 ได้ขยายกำลังผลิตของธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาและทุ่นลอยน้ำในไทยและอินโดนีเซีย รวมถึงมีการลงทุนในธุรกิจกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ครบวงจร รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 40 ในบริษัท เอส โวลต์ เอเนอร์จี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (SVOLT Thailand) งบลงทุน 750 ล้านบาท โดยโรงงานผลิตแบตเตอรี่ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี รองรับการผลิตแบตเตอรี่เริ่มต้น 60,000 ชุดต่อปี ภายในปี 2567

“BPP ในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าชั้นนำที่สร้างสมดุลของพอร์ตธุรกิจทั้งพลังงานความร้อนและพลังงานหมุนเวียน ดำเนินธุรกิจในประเทศ 8 ประเทศศักยภาพในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ยังคงดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นในหลักความยั่งยืนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (Environmental, Social and Governance: ESG) โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ BPP ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings” ในระดับ AAA ประจำปี 2566 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกด้วย ทั้งนี้ BPP ยังคงเน้นการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (High Efficiency, Low Emissions: HELE) และส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อพลังงานสะอาด สอดคล้องกับแนวทางการลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonization) ควบคู่ไปกับการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างคุณค่าในระยะยาวให้แก่นักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน” นายกิรณ กล่าวสรุป

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจ BPP ได้ที่ www.banpupower.com

###

ข้อมูลโรงไฟฟ้าและโครงการโรงไฟฟ้าของ BPP ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566

ธุรกิจผลิตไฟฟ้า และธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาและทุ่นลอยน้ำ เปิดดำเนินการ
เชิงพาณิชย์แล้ว
อยู่ระหว่างการพัฒนา
จำนวน (แห่ง/โครงการ)
42 39 3
กำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุน (เมกะวัตต์)
3,685 3,527 158

# # #

เกี่ยวกับ BPP

บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าคุณภาพระดับสากล ที่ยึดมั่นในการส่งมอบพลังงานที่ยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Powering Energy Sustainability with Quality Megawatts” (มุ่งสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานด้วยเมกะวัตต์คุณภาพ) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครอบคลุมประเทศไทย ลาว จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา BPP มุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อการผลิตไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ด้วยเป้าหมายขยายกำลังผลิตให้ได้มากกว่า 5,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568

สำหรับสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2566 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 103,674 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26,009 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมปีก่อน ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565

© 2024 Banpu Power Public Company Limited | บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน). All rights reserved.