By clicking “Accept All Cookies”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts.
Cookies Settings
BPP กับการทำธุรกิจด้วยหลัก ESG ที่พาองค์กรเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

BPP กับการทำธุรกิจด้วยหลัก ESG ที่พาองค์กรเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

เรื่องของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (sustainable development) ได้กลายเป็นเมกะเทรนด์ที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง เพราะสภาพแวดล้อมในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปและมนุษย์มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ หากเรายังใช้ชีวิตหรือดำเนินธุรกิจโดยไม่สนใจผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อีกไม่นานธรรมชาติอาจส่งคำเตือนที่รุนแรงยิ่งขึ้นมาถึงพวกเราแน่นอน

นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลายองค์กรมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยหลักการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (Environment, Social and Governance) หรือ ESG มากขึ้น ซึ่งในฝั่งของผู้บริโภค งานวิจัยของ PWC ชี้ชัดว่า มีผู้บริโภคถึง 83% ที่มองว่าบริษัทต่างๆ ควรพัฒนาแนวปฏิบัติอย่างจริงจังเพื่อให้ตอบโจทย์ตามหลัก ESG ในขณะที่  86% ของพนักงานก็อยากทำงานให้กับบริษัทที่ยึดหลัก ESG เช่นเดียวกับเขา (ที่มา: 2021 ESG Consumer Intelligence Series: PwC) เพราะสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ได้มุ่งแต่จะแสวงหาผลตอบแทนที่อยู่ในรูปของผลกำไรเพียงอย่างเดียว

BPP ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าคุณภาพเพื่อโลกที่ยั่งยืน

ภายใต้หลักการ ESG คือที่มาของการดำเนินงานของบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ผ่านกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อมุ่งส่งมอบพลังงานไฟฟ้าที่สะอาดและฉลาดขึ้น ด้วยจุดยืนในการเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าคุณภาพเพื่อโลกที่ยั่งยืน (We ARE Power for the Sustainable World) บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างความสมดุลของพอร์ตโฟลิโอ ทั้งจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปและพลังงานหมุนเวียน ตามหลักของความยั่งยืนด้านพลังงาน อันสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบและความตั้งใจที่จะส่งมอบพลังงานไฟฟ้าคุณภาพในราคาที่เหมาะสม (Affordable) สามารถส่งมอบพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง (Reliable) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly)

นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “BPP มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) โดยได้เชื่อมโยงเป้าหมาย SDGs 6 ข้อเข้ากับกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ เช่น การกำหนดเป้าหมายกำลังผลิตไฟฟ้า 5,300 เมกะวัตต์ โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 800 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 และการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับ SDG ข้อที่ 7 พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้, การให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในการทำงาน โดยตั้งเป้าการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงและเจ็บป่วยจากการทำงานทั้งพนักงานและผู้รับเหมาเป็นศูนย์ สอดคล้องกับ SDG ข้อที่ 8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ, การกำหนดอัตราการปล่อยมลสารในโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงทั่วไปอยู่ในระดับต่ำ (Ultra-low Emissions) และปฏิบัติตามกฎหมายด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด สอดคล้องกับ SDG ข้อที่ 9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม, หรือการกำหนดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ และการวางระบบการบริหารจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับ SDG ข้อที่ 13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น นอกจากนี้ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัท Flagship ของกลุ่มบ้านปู เรายึดมั่นในปณิธานเดียวกันที่ว่า “อุตสาหกรรมที่ดีจะต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม” ซึ่งได้นำไปเป็นหลักปฎิบัติในทั้ง 7 ประเทศที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ ได้แก่ ประเทศไทย สปป.ลาว จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่และความต้องการของชุมชนโดยรอบเป็นสำคัญ การเป็นพลเมืองที่ดีในทุกพื้นที่นี้ถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งของ BPP ที่ช่วยให้การบริหารโครงการ โรงไฟฟ้า และความสัมพันธ์กับชุมชนรอบข้างเป็นไปได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ BPP มีการกำหนดนโยบายด้าน ESG ที่สอดคล้องและเป็นเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับกลุ่มบ้านปู และมีคณะกรรมการการพัฒนาที่ยั่งยืน (Banpu Power Sustainable Development Committee) ในการกำกับดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อสร้างประโยชน์อย่างสมดุลให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม”

สิ่งแวดล้อมคือหัวใจสำคัญสำหรับ BPP

ปัญหา “ก๊าซเรือนกระจก” เป็นหนึ่งความจำเป็นเร่งด่วนที่ BPP ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และเป็นเหตุผลให้บริษัทฯ เลือกลงทุนในธุรกิจพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (Greener) เพื่อตอบรับกับเทรนด์ Decarbonization ทั้งโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ตลอดจนการขยายการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานผ่าน “บ้านปู เน็กซ์” เช่น โซลาร์ รูฟท็อป ระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า ยานพาหนะไฟฟ้า การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และโซลูชันด้านเทคโนโลยีพลังงาน รับเทรนด์พลังงานแห่งอนาคต ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป บริษัทฯ ยังคงดำเนินการด้วยความรับผิดชอบต่อลูกค้า และคำนึงถึงสมดุลของความยั่งยืนด้านพลังงานเป็นสำคัญ เพราะความต้องการพลังงานและความพร้อมของการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดมีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยได้นำเทคโนโลยี HELE หรือ High Efficiency, Low Emissions เข้ามาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าและทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งนี้ BPP ตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2568 จะมีกำลังผลิต 5,300 เมกะวัตต์ โดยเป็นกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 800 เมกะวัตต์ และมีอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ไม่เกิน 0.676 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง

ใส่ใจพนักงาน มุ่งพัฒนาชุมชน และตอบแทนสังคมด้วยใจ

ธุรกิจจะเติบโตอย่างยั่งยืนได้จะต้องเริ่มจากการดูแลพนักงานภายใน BPP จึงมุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถและภาวะผู้นำของพนักงาน เพื่อตอบสนองต่อทักษะใหม่ที่จำเป็นและสอดรับกับทิศทางธุรกิจแห่งโลกอนาคต โดยมีการจัดทำแผนพัฒนาศักยภาพรายบุคคล และวางแผนการสืบทอดตำแหน่งที่สำคัญเพื่อความต่อเนื่องในการบริหารงาน รวมถึงมีวัฒนธรรมองค์กรบ้านปู ฮาร์ท (Banpu Heart) ที่เชื่อมโยงและหลอมรวมพนักงานจากหลากหลายเชื้อชาติและต่างวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ตลอดจนการดำเนินโครงการด้านซีเอสอาร์เพื่อตอบแทนคืนสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง เช่น การมอบทุนสนับสนุนแก่นักเรียนในโรงเรียนเด็กพิเศษหลวนหนานบ้านปู ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ดูแลนักเรียนที่มีความผิดปกติทางร่างกาย เช่น พิการทางสายตา หู และสมอง มากว่า 13 ปี การสนับสนุนการฝึกซ้อมและการแข่งขันของนักกีฬาในศูนย์ฝึกเทเบิลเทนนิสแห่งชาติในเมืองเจิ้งติ้งมากว่า 17 ปี การพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า การทำกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านโครงการ CSR Ideas of the Year ในไทย หรือการเข้าร่วมในข้อตกลงการจ่ายไฟฉุกเฉินเมื่อเกิดพิบัติภัยของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์นาริไอสึในญี่ปุ่น

อีกทั้งในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 อยู่ในสภาวะวิกฤต BPP ยังได้ช่วยเหลือสังคมเชิงรุกในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าและในประเทศที่บริษัทดำเนินธุรกิจ เช่น การมอบเงินและสิ่งของจำเป็นเพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐบาลในการต่อสู้กับโควิด-19 ของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมทั้ง 3 แห่งในจีน การสนับสนุนถุงยังชีพให้แก่สถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อแจกจ่ายให้กับคนไทยในญี่ปุ่นที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตเศรษฐกิจโควิด-19 ฯลฯ

กำกับดูแลกิจการด้วยจริยธรรม และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในยุคโควิด-19

จริยธรรมทางธุรกิจและการต่อต้านการคอร์รัปชันทุกรูปแบบเป็นเรื่องพื้นฐานที่ BPP ให้ความสำคัญ การมีวัฒนธรรมองค์กร Banpu Heart ที่หนึ่งในหลักปฏิบัติ 10 ประการให้ความสำคัญกับการยึดมั่นในความถูกต้อง (Adhere to Integrity and Ethics) เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานทุกระดับจะขับเคลื่อนองค์กรไปในทิศทางที่เหมาะสมบนพื้นฐานของจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ เมื่อเข้าสู่ยุควิกฤตโควิด-19 บริษัทฯ ก็ยังสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ด้วยความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง การเตรียมความพร้อม และการเลือกเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้ เช่น การนำระบบ ISO 22301 (BCMS) มาใช้ก่อนเกิดเหตุการณ์ การกำหนดมาตรการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ของแต่ละประเทศ หรือการเตรียมความพร้อมของระบบคลาวด์เพื่อรองรับการใช้งานโดยไม่จำเป็นต้องเข้าสำนักงาน พร้อมให้พนักงานสามารถทำงานได้ทุกที่แบบ Work from Anywhere จากการเตรียมพร้อมและการป้องกันอย่างรัดกุมทำให้โรงไฟฟ้าทุกแห่งของ BPP สามารถคงประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างต่อเนื่องตามแผน ด้วยไฟฟ้าเป็นสาธารณูปโภคที่จำเป็นต่อทุกภาคส่วน ความมั่นคงและต่อเนื่องในการเดินเครื่องจ่ายไฟเข้าระบบจึงเป็นความรับผิดชอบสำคัญของ BPP ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า

รางวัลแห่งความสำเร็จ

ในปี 2564 BPP ได้รับเลือกเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีรายชื่ออยู่ใน “หุ้นยั่งยืน” หรือ Thailand Sustainable Investment ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และได้รับรางวัล Rising Star Sustainability Awards ในกลุ่ม Market Cap 30,000-100,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 268 บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ในระดับดีเลิศ (Excellence CG Scoring) ประจำปี 2564 จัดโดยสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ตอกย้ำความมุ่งมั่นและความสำเร็จของบริษัทฯ ในการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ซึ่งคำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environment, Social and Governance: ESG)

สำหรับ BPP การดำเนินธุรกิจภายใต้หลัก ESG ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ที่ต้องดำเนินรอยตาม แต่เป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจที่บริษัทฯ ทำด้วยความตั้งใจจริงและทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเน้นย้ำถึงการเป็นพลเมืองที่ดีในทุกประเทศที่บริษัทฯ เข้าไปดำเนินธุรกิจ รวมถึงการตอบแทนคืนสู่ชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน

###

เกี่ยวกับบ้านปู เพาเวอร์

บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกครอบคลุมประเทศไทย สปป.ลาว จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ด้วยจุดยืนการเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าคุณภาพเพื่อโลกที่ยั่งยืน  (We ARE Power for the Sustainable World)  ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ที่ผ่านมา บ้านปู เพาเวอร์มุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อการผลิตไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ด้วยเป้าหมายขยายกำลังผลิตให้ได้มากกว่า 5,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568

© 2024 Banpu Power Public Company Limited | บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน). All rights reserved.