By clicking “Accept All Cookies”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts.
Cookies Settings
บ้านปู เพาเวอร์ฯ ไตรมาสที่ 1/2563 มีกำไรเติบโตขึ้นจากโรงไฟฟ้าทุกแห่ง เดินหน้าพัฒนาโรงไฟฟ้าตามแผน พร้อมมาตรการรับมือโควิด-19

บ้านปู เพาเวอร์ฯ ไตรมาสที่ 1/2563 มีกำไรเติบโตขึ้นจากโรงไฟฟ้าทุกแห่ง เดินหน้าพัฒนาโรงไฟฟ้าตามแผน พร้อมมาตรการรับมือโควิด-19

  • โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีและโรงไฟฟ้าหงสาจ่ายไฟเต็มประสิทธิภาพที่ 100% และ 91% ตามลำดับ
  • เตรียม COD เพิ่ม 424 เมกะวัตต์ จากโครงการโรงไฟฟ้าในจีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม
  • เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Sunseap เป็น 48.6% ดันกำลังผลิตจากพอร์ตพลังงานสะอาด 

บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากทั้งพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป (Thermal Power Business) และพลังงานหมุนเวียน (Renewable Power Business) ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2563 มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 1,775 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว เนื่องมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีและโรงไฟฟ้าหงสา ซึ่งมีค่าความพร้อมจ่าย (Equivalent Availability Factor: EAF) ถึงร้อยละ 100 และร้อยละ 91 ตามลำดับ โดยสามารถเดินเครื่องเพื่อผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพส่วนการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าในจีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม กำลังผลิตรวม 424 เมกะวัตต์ คืบหน้าตามแผน ด้วยระบบการบริหารจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management: BCM)ที่มีประสิทธิภาพ สะท้อนถึงความสามารถในการพร้อมรับสถานการณ์ที่ไม่ปกติและความยืดหยุ่นในการบริหารงานแม้ในสภาวะวิกฤติจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ การเข้าถือหุ้นใน Sunseap Group Pte. Ltd. (Sunseap) ผ่านบ้านปู เน็กซ์ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 48.6 ยังช่วยขยายพอร์ตธุรกิจพลังงานสะอาดในกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน และตอกย้ำความมุ่งมั่นของบ้านปู เพาเวอร์ฯ ในการขยายการเติบโตให้ถึงเป้าหมาย 5,300 เมกะวัตต์เทียบเท่า โดยมีพลังงานหมุนเวียน 800 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568

นายกิรณ ลิมปพยอม ซึ่งได้เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เมื่อเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา กล่าวว่า “โรงไฟฟ้าทุกแห่งของบ้านปู เพาเวอร์ฯ ยังสามารถเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสภาวะของการเกิดโควิด-19 บริษัทฯ ได้มีการบริหารจัดการทั้งแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจและการบริหารการเงินเพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นโดยดำเนินมาตรการป้องกันต่างๆ อย่างเคร่งครัดตามแนวทางที่รัฐบาลในแต่ละประเทศกำหนดมีการบริหารต้นทุนอย่างรัดกุม มุ่งเน้นการรักษาประสิทธิภาพและเสถียรภาพของทุกๆ โรงไฟฟ้าและความสามารถในการรักษาสถานะทางการเงินไว้เป็นอย่างดี ทำให้ผลประกอบการทั้งในส่วนของพอร์ตพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปและพลังงานหมุนเวียนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสนี้ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมที่ประเทศจีนรายงานผลกำไรที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำในช่วงฤดูหนาว โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งได้ผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าและไอน้ำเพื่อตอบสนองความต้องการแก่ชุมชน รวมถึงลูกค้าอุตสาหกรรมโดยเฉพาะกลุ่มที่ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเวชภัณฑ์ต่างๆ เพื่อใช้ในการรักษาโรคในช่วงที่เกิดการระบาดในประเทศ นอกจากนี้ การลงทุนในบ้านปู เน็กซ์ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนแล้ว ถือเป็นการเพิ่มโอกาสการเติบโตโดยเฉพาะด้านธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานอย่างครบวงจร”

สำหรับไตรมาส 1/2563 บ้านปู เพาเวอร์ฯ มีรายได้รวม 1,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ประกอบด้วยรายได้จากการขายไฟฟ้าในจีน ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมทั้ง 3 แห่ง จำนวน 1,626 ล้านบาท โดยมีการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำรวมทั้งน้ำร้อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 และร้อยละ 25 ตามลำดับเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อีกส่วนหนึ่งมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 7 แห่ง จำนวน 89 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนผลการดำเนินงานเพียง 2 เดือน ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นการรายงานในรูปแบบส่วนแบ่งกำไรภายหลังการปรับโครงสร้างการลงทุนเสร็จสิ้นต้นเดือนมีนาคม 2563 และรายได้จากธุรกิจซื้อขายไฟฟ้า หรือ Energy Trading ในญี่ปุ่นจำนวน 128 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมค้าจำนวน 1,104 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ส่วนหลักมาจากโรงไฟฟ้าหงสาที่รายงานส่วนแบ่งกำไรจำนวน 1,122 ล้านบาท (รวมผลกำไรจากการแปลงค่าเงินแล้วจำนวน 151 ล้านบาท) ส่วนโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีรายงานส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 200 ล้านบาท (ยังไม่รวมผลขาดทุนจากภาษีเงินได้รอตัดบัญชีจำนวน 243 ล้านบาท และผลขาดทุนจากการแปลงค่าเงินจำนวน 26 ล้านบาท) ดังนั้นจึงรายงานส่วนแบ่งขาดทุนจำนวน 70 ล้านบาท นอกจากนั้น ธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงาน ภายใต้การดำเนินงานของบ้านปู เน็กซ์ รายงานส่วนแบ่งกำไรจำนวน 32 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานเดือนมีนาคมเพียง 1 เดือน

ณ ปัจจุบัน บ้านปู เพาเวอร์ฯ มีโรงไฟฟ้าและโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมด 33 แห่ง แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) แล้ว 24 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนา 9 โครงการ กำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวม 2,784 เมกะวัตต์เทียบเท่า คิดเป็นกำลังผลิตที่ COD แล้ว 2,250 เมกะวัตต์เทียบเท่า (รวมส่วนแบ่งกำลังผลิตจากการปรับโครงสร้างการลงทุนในบ้านปู เน็กซ์) บริษัทฯ เดินหน้าการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง (Shanxi Lu Guang) ในจีน กำลังผลิต 396 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น ยามางาตะ (Yamagata) 20 เมกะวัตต์ และยาบูกิ (Yabuki) 7 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ระยะที่ 1 ในเวียดนาม 30 เมกะวัตต์ ตามแผน โดยคาดว่าจะทยอย COD ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ ทั้งนี้ หากสถานการณ์โควิด-19 ยังคงดำเนินต่อไป บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมและมาตรการในการรับมืออย่างฉับไวและจำกัดผลกระทบให้เกิดน้อยที่สุด เพื่อให้โครงการโรงไฟฟ้าเดินหน้าพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง

“เพื่อไปถึงเป้าหมายกำลังผลิต 5,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าทุกแห่ง เดินหน้าพัฒนาและก่อสร้างโครงการต่างๆ ให้สามารถ COD ได้ตามแผน และมุ่งหน้าแสวงหาโอกาสในการลงทุนทั้งในประเทศที่ดำเนินธุรกิจอยู่และประเทศที่มีศักยภาพตามกลยุทธ์ Greener & Smarter อย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์โควิด-19 อย่างใกล้ชิด และได้เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้านเพื่อปรับตัวให้ทันกับกระแสของความปกติใหม่ (New Normal) ที่กำลังเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันกับวิถีชีวิตและการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน เพื่อให้มั่นใจว่าโรงไฟฟ้าทุกแห่งสามารถเดินเครื่องผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้อย่างราบรื่นและเต็มกำลัง อีกทั้งยังมุ่งขยายการเติบโตในพอร์ตพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานเพื่อเสริมธุรกิจผลิตไฟฟ้าให้แข็งแกร่งและสอดรับกับกระแสพลังงานแห่งโลกอนาคตได้ดียิ่งขึ้น  ความชำนาญในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า และการผนึกพลังร่วมกับกลุ่มบ้านปูฯ จะทำให้บ้านปู เพาเวอร์ฯ ก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าที่สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มมูลค่าและรักษาสมดุลระหว่างกระแสเงินสดและผลตอบแทนแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (Environmental, Social and Governance: ESG)” นายกิรณ กล่าวปิดท้าย

# # #

เกี่ยวกับบ้านปู เพาเวอร์ฯ 
บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครอบคลุมประเทศไทย สปป.ลาว จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา บ้านปู เพาเวอร์ฯ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อการผลิตไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ด้วยเป้าหมายขยายกำลังการผลิตให้ได้ถึง 5,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 สำหรับสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563มีสินทรัพย์รวมจำนวน 49,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 673 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562

© 2024 Banpu Power Public Company Limited | บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน). All rights reserved.